การพิจารณาว่า ราคาหุ้นสหรัฐ ดีหรือไม่นั้น มีความเกี่ยวข้องกับการประเมินปัจจัยต่าง ๆ รวมทั้งการยอมรับความเสี่ยง และกลยุทธ์การลงทุนของคุณ ดังนั้นเราจึงได้นำควรพิจารณาบางประการที่จะช่วยคุณประเมินราคาหุ้นสหรัฐฯ และตัดสินใจลงทุนอย่างมีข้อมูลมาฝากกัน
การประเมิน ราคาหุ้นสหรัฐ เช็กจากดัชนีตลาด
ราคาหุ้นสหรัฐ ให้ดูดัชนีตลาดหุ้นหลัก ๆ ของสหรัฐฯ เช่น S&P 500, Dow Jones Industrial Average (DJIA) และ Nasdaq Composite ดัชนีเหล่านี้ให้ภาพรวมของประสิทธิภาพโดยรวมของตลาดหุ้น และให้ตรวจสอบผลการดำเนินงานในอดีตของตลาดหุ้นเพื่อทำความเข้าใจแนวโน้มและรูปแบบที่เป็นไปได้ แต่ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต และอาจจะพิจารณาข้อมูลในด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมเช่น
เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ
พิจารณาตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น การเติบโตของ GDP อัตราการจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทและราคาหุ้นด้วย
รายงานรายได้
ให้ความสนใจกับรายงานผลประกอบการของแต่ละบริษัท ผลกำไรที่เป็นบวกและการเติบโตของรายได้มักถูกมองในแง่ดีจากนักลงทุน
อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อ
การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้ออาจส่งผลต่อการประเมินมูลค่าหุ้น อัตราดอกเบี้ยต่ำและอัตราเงินเฟ้อปานกลางอาจเอื้อต่อราคาหุ้นที่สูงขึ้น
ภาวะเศรษฐกิจโลก
ตระหนักถึงภาวะเศรษฐกิจโลกและเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากอาจมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ
นักลงทุนจะตรวจสอบราคาหุ้นสหรัฐได้ที่ไหน
ถ้าคุณอยากทราบถึงแหล่งที่ใช้ในการตรวจสอบราคาหุ้นสหรัฐเราก็มีมาฝากกัน
1. เว็บไซต์ข่าวการเงิน
เว็บไซต์เช่น CNBC, Bloomberg และ Reuters ให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับราคาหุ้น ดัชนีตลาด และข่าวทางการเงิน
2. แอปตลาดหุ้น
แอปมือถือจากผู้ให้บริการข่าวทางการเงินและแพลตฟอร์มนายหน้า ซื้อขายหุ้นเสนอราคาหุ้นแบบเรียลไทม์และการอัปเดตตลาด
3. แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์
แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ ซึ่งคุณอาจมีบัญชีการลงทุนของคุณ เสนอราคาหุ้น แผนภูมิ และเครื่องมือวิจัยแบบเรียลไทม์
การลงทุนระยะสั้น หรือ ระยะยาวดีกว่ากัน?
การลงทุนระยะสั้น คือ การถือครองเงินลงทุนในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งมักเป็นวัน สัปดาห์ หรือเดือน ต้องมีการติดตามแนวโน้มของตลาด การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากความผันผวนของตลาดและความผันผวนในระยะสั้น
ส่วนการลงทุนระยะยาว คือ การถือครองเงินลงทุนเป็นระยะเวลานาน โดยทั่วไปเป็นปี เน้นการวิเคราะห์พื้นฐาน โดยมุ่งเน้นไปที่สุขภาพทางการเงินและศักยภาพในการเติบโตของบริษัท มีข้อดีคือทำให้นักลงทุนสามารถหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาดได้
ท้ายที่สุดแล้ว การตัดสินใจระหว่างการลงทุนระยะสั้นและระยะยาวขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เป้าหมายทางการเงิน และการยอมรับความเสี่ยงของคุณ ขอแนะนำให้ทำการวิจัยอย่างละเอียด ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสภาวะตลาด และขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก่อนตัดสินใจลงทุนก่อนลงทุน